ในการทำงาน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และปัญหาที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ครั้ง ก็เป็นปัญหาที่ทีมงานคาดไม่ถึงมาก่อน
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องใช้ไหวพริบ และเป็นการวัดกึ๋นของทีมได้เลยว่า
มีการจัดการปัญหาได้ดีเพียงไร จริง ๆ แล้วเรื่องการแก้ไขปัญหาหลายคนอาจคิดว่า
มันเป็นทักษะเฉพาะตัวหรือเปล่า ฝึกได้จริง ๆ เหรอ ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ค่ะ ขอเพียงตั้งใจ แล้วทำตาม 6 ข้อด้านล่างนี้ เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาสกิลการแก้ปัญหาได้บ้างไม่มากก็น้อย
1.
ดูจากผู้มีประสบการณ์
แน่นอนว่าไม่มีใครทำทุกอย่างเป็นตั้งแต่เกิด
เมื่อเริ่มเข้าทำงานแรกยังเป็นหนุ่มสาวหน้าใหม่ไฟแรง
มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าเก่ง ๆ
ก็อย่าลืมรีบเร่งฉกฉวยโอกาสเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่ผู้มีประสบการณ์ถ่ายทอดให้
เริ่มแรกถ้ายังไม่มีประสบการณ์ก็เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์นี่แหล่ะดี
อาจจะเป็นการเรียนรู้จากหน้างานเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจริงก็ได้
หรือเกิดจากการสอบถามถึงเคสต่าง ๆ ที่ผู้มีประสบการณ์เคยเจอ เคยผ่านมาให้พี่ ๆ
เล่าให้ฟัง เพื่อเตรียมตัวโดยไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยไปถาม
แล้วเราจำไปใช้ก็ได้เช่นกันค่ะ
2.
ทำความเข้าใจกับเรื่องที่ทำให้ถ่องแท้
ฟังจากผู้มีประสบการณ์ก็คงช่วยได้จุดหนึ่ง แต่จะดีมาก ๆ
ถ้าเรามีความเข้าใจพื้นฐานต่อเนื้องานที่เรากำลังทำอย่างถ่องแท้ เข้าใจในทุกมุม
ความเข้าใจช่วยได้ในหลายส่วนหากมีปัญหาที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น
เราจะรู้ทันทีว่าต้องไปตามแก้ที่จุดไหน กับใคร และเราจะสามารถ catch
up งานได้ทันว่า โปรเจกต์นี้ดำเนินการไปถึงจุดไหนแล้ว
3.
ฝึกวิเคราะห์ปัญหา
การรู้เหตุแห่งปัญหา และผลที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
และไม่หลอกตัวเองย่อมทำให้รู้หนทางแห่งการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
เมื่อทำงานมาได้ระยะหนึ่ง เริ่มรู้และเข้าใจ flow การทำงานทั้งหมด
สิ่งที่สำคัญก็คือต้องฝึกคิดวิเคราะห์แยกแยะปัญหาให้เป็น
เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างแม่นยำ
4.
ฟังอย่างแตกฉาน
ที่สำคัญไม่แพ้การพูด ก็คือ “การฟัง” หลายคนเข้าใจผิด หลงลืมมองข้ามการฟังที่ดีไป
ทำให้ตีความผิดในหลายเรื่องและนำมาซึ่งความไร้ประสิทธิภาพของการแก้ปัญหา เวลาฟัง
จงฟังอย่างตั้งใจ และคิดตามไปด้วย อย่าได้ใจลอย คิดไปถึงเรื่องอื่น ๆ
ที่สำคัญจับประเด็นให้ได้ ว่าผู้ส่งสารต้องการจะบอกอะไรกับเราบ้าง
แล้วเราจะนำมาวางแผนการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี
5.
เล่าให้มีประเด็น
สลับกันกับข้อด้านบน เวลาเป็นคนเล่า ก็ต้องเล่าอย่างมีประเด็นด้วย
เล่าให้ผู้ฟังเข้าใจว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไรกับเรื่องนี้ และจะขอความเห็นใน next
step อย่างไรก็ว่ากันไป การจะเล่าก็ต้องเตรียมตัว
เรียบเรียงประเด็นต่าง ๆ นหัวแล้วค่อยพรั่งพรูออกมา
ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นแล้วต้องเล่า ต้องพยายามเล่าให้ครบถ้วนใจความแต่กระชับมากที่สุด
เพื่อจะได้เอาเวลาไปคิดวางแผนวิธีรับมือแก้ไขกับปัญหาได้ทัน
6.
ทีมเวิร์ค
สุดท้ายคือเรื่องราวของทีมเวิร์ค ในบางครั้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นมาออาจไม่ใหญ่โตมากนัก
ลำพังคนเพียงคนเดียวก็เอาอยู่ แต่อีกในหลายครั้งหลายคราที่ปัญหาเกิดมา
ต้องการทีมงานมาช่วยกันแก้ไขปัญหา คน ๆ
เดียวอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วทันการณ์
การทำงานการเป็นทีมเวิร์คจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองว่าบทบาทของเราจะช่วยแก้ปัญที่เกิดขึ้นได้ตรงไหน
และพยายามผลักดันให้การแก้ปัญหาได้ลุล่วงไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น